วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อ้อยกับลูกสาวคหบดี

กาลนานมาแล้ว ในสมัยที่โลกยังไม่มีแปรงสีฟันใช้นั้น มีคหบดีผู้หนึ่งมีความรักใคร่เอ็นดูบุตรสาวของตนมาก เพราะบุตรสาวของเขานั้นเป็นหญิงที่งามทั้งใบหน้า และกริยา
วันหนึ่งเห็นว่าบุตรสาวของตนชักจะมีขี้ฟันมากเกรอะกรังอยู่ไรฟันเต็มไปหมดเวลาพูดจาหรือเข้าใกล้ก็มีกลิ่นเหม็นคลุ้ง คหบดีผู้นั้นคิดว่าถ้าจะปล่อยให้สภาพการณ์เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่ นอกจากพวกหนุ่มๆที่เข้ามาติดตอมจะเอือมระอาแล้ว ย่อมเป็นที่รังเกียจของสังคมด้วย แต่ก็ไม่กล้าบอกบุตรสาวตรงๆเพราะเกรงบุตรสาวจะอับอายจึงได้หาอุบายโดยบอกให้บุตรสาวไปหาอ้อยมากินให้มากๆ เพื่อผิวพรรณจะได้สวยงามยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วอ้อยเหล่านั้นจะได้ช่วยแปรง และแทะขี้ฟันให้หลุดไปได้

เขาจึงได้ให้เงินลูกสาวเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ไปหาซื้ออ้อยที่สวนข้างๆบ้านมาไว้กินแต่ขณะที่บุตรสาวเดินไประหว่างทางยังไม่ทันถึงสวนอ้อย เห็นพ่อค้าหาบเผือกต้มสวนทางมาหล่อนอยากกินเป็นกำลัง จึงซื้อเผือกกินเสียจนหมดเงินแล้วจึงเดินกลับบ้าน
บิดาเห็นหล่อนเดินมาแต่ไกลจึงนึกดีใจว่าขี้ฟันของลูกสาวตนคงหมดเกลี้ยงดีแล้วแต่ที่ไหนได้พอหล่อนเผยอยิ้มเท่านั้น ขี้ฟันกลับพอกพูนเกรอะกรังส่งกลิ่นตลบยิ่งขึ้นเพราะเผือกได้เข้าไปจับเกาะเต็มไปหมด คหบดีผู้นั้นเกือบล้มทั้งยืน
เห็นแต่ไกล[ คงกินอ้อยแล้ว ]ใกล้เข้ามา[ ขี้ฟันคงหมดแล้ว ]
[ ชัดเลย...หึ่งเชียว ]
คหบดีจึงถามบุตรสาวว่า "อีหนู เอ็งไม่ได้ไปซื้ออ้อยกินหรอกหรือ?"
"เปล่าจ้ะพ่อ ฉันนึกอยากกินเผือกต้ม เลยซื้อกินเสียอิ่ม" บุตรสาวตอบ
"ชะอีเวร นี่เองขี้ฟันจึงมากขึ้นตั้งบุ้งกี๋"
บุตรสาวได้ยินดังนั้นจึงทราบถึงอุบายของบิดา ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจึงหมั่นซื้ออ้อยกินทุกๆวัน ฟันจึงสอาดหมดจดยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม