วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ซ่อมได้

ถาม : อยากจะปรับปรุงห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ ต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง? (คุณชัชณิชา กทม.)ตอบ : ห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ไม่ว่าขนาดจะเล็กหรือใหญ่เพียงใด ต้องมีการออกแบบที่ดี มีการคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัย และการใช้งานอย่างสะดวกสบายไว้ด้วยเสมอ เพราะผู้สูงอายุและเด็กเล็กๆ ที่มักจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเป็นพิเศษ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการลื่นหกล้ม จึงควรเลือกใช้วัสดุปูพื้นประเภทหินหรือกระเบื้องชนิดที่ไม่ลื่น ถ้าผิวกระเบื้องมีความหยาบ ความด้านมากเท่าใด ก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้การเลือกกระเบื้องปูพื้นแบบที่มีลวดลายในแผ่น จะช่วยเพิ่มแรงเสียดทานได้ดีขึ้นด้วย ควรเลือกใช้กระเบื้องขนาดเล็กจะดีกว่ากระเบื้องปูพื้นที่มีขนาดใหญ่ เพราะกระเบื้องยิ่งเล็กก็จะต้องมีการยาแนวถี่กว่ากระเบื้องแผ่นใหญ่ๆ ร่องยาแนวเหล่านี้จะช่วยทำให้เกิดแรงเสียดทานได้ดีเช่นกัน แต่มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่คราบสกปรกมักจะฝังตัวอยู่ตามร่องยาแนวนี้ จึงควรหมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ ห้องน้ำของบ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ นอกจากการเพิ่มความปลอดภัยในห้องน้ำด้วยการปูพรมกันลื่นในอ่างอาบน้ำหรือพื้นห้องอาบน้ำ หรืออาจใช้เป็นแผ่นกันลื่นแบบที่มีกาวในตัวติดแยกเป็นระยะแล้ว ยังควรติดตั้งราวจับที่แข็งแรงไว้หลายๆ ที่ เพื่อใช้ยึดจับป้องกันไม่ให้หกล้มได้ง่าย เช่น บริเวณที่อาบน้ำ บริเวณโถปัสสาวะ ส่วนชักโครก ควรติดตั้งราวจับแบบที่เท้าแขนของเก้าอี้ โดยติดร่วมกับโถชักโครกเลย จะช่วยให้ผู้สูงอายุลุกได้อย่างสะดวก ส่วนเรื่องประตูห้องน้ำควรเป็นแบบเปิดออก ซึ่งจะแตกต่างกับประตูห้องน้ำทั่วๆ ไป ปลั๊กไฟในห้องน้ำต้องมีสายดินและมีฝาปิด และควรติดตั้งโทรศัพท์หรืออุปกรณ์กดเรียกขอความช่วยเหลือไว้ในห้องน้ำด้วย ถาม : กำลังจะทาสีบ้านเดิมใหม่ ช่างแนะนำให้ใช้วิธีพ่น เพราะจะทำงานได้เร็วและราคาไม่แพงจริงหรือเปล่า รบกวนช่วยตอบด่วน (คุณภัครภรณ์ กทม.) ตอบ : การทำสีบ้านพักอาศัยทั่วไปมีหลายแบบ เช่น การทาสีด้วยแปรงด้วยลูกกลิ้ง หรือแม้แต่การพ่น ซึ่งวิธีการแต่ละแบบก็จะให้ผลที่แตกต่างกันออกไป การทาสีด้วยแปรงเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะวิธีการค่อนข้างง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมาก เพียงแค่มีแปรงทาสีที่มีคุณภาพและขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะทาก็ทำงานได้แล้ว แต่การทาสีด้วยแปรงอาจมีปัญหาตรงรอยต่อระหว่างแปรงและความเรียบเนียนของสีมักไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับแรง ความหนักเบาของคนทาด้วย ส่วนการทาสีด้วยลูกกลิ้งนั้นช่วยประหยัดแรงและเวลาได้มาก เหมาะกับพื้นผิวที่มีความเรียบมากๆ ปัจจุบันนี้ลูกกลิ้งทาสีจะมีวัสดุและลวดลายให้เลือกใช้มากมาย เช่น ลูกกลิ้งแบบผ้า ลูกกลิ้งแบบโฟม ลูกกลิ้งแบบฟองน้ำ ลูกกลิ้งขนแกะ ลูกกลิ้งกรุลาย ซึ่งวัสดุแต่ละแบบก็เหมาะกับงานที่แตกต่างกันออกไป ในการทาสีด้วยลูกกลิ้งมีสิ่งที่ควรระวังคือ ทุกครั้งที่กลิ้งสีแล้วจะเกิดฟองอากาศเล็กๆ บนพื้นผิว อาจแก้ไขด้วยการใช้แปรงที่แห้งสนิทลูบเบาๆ หลังการกลิ้งสีทันที สุดท้ายคือการทาสีด้วยเครื่องพ่น ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัด แต่น่าจะเหมาะกับอาคารขนาดใหญ่มากกว่า และต้องจัดหาเครื่องพ่นสีที่เหมาะกับพื้นที่ที่จะใช้งาน ส่วนมากการทาสีด้วยการพ่น สำหรับบ้านพักอาศัยมักเป็นเพียงการพ่นเพื่อการตกแต่งบางส่วนเท่านั้น เช่น การพ่นฝ้าเพดานเป็นลวดลายท้องฟ้า การพ่นผนังให้เป็นภาพวิว เป็นต้น ในการพ่นสีต้องใช้ลมจากเครื่องปั๊มลมเสมอ จึงมีข้อควรระมัดระวังอยู่บ้าง เช่น การตั้งแรงดันลมที่เหมาะสมไม่แรงหรืออ่อนเกินไป เพราะการตั้งแรงดันลมที่อ่อนเกินไปจะทำให้เม็ดสีหรือละอองสีค่อนข้างหยาบและทำงานได้ช้า ส่วนแรงดันลมที่แรงเกินไปถึงจะได้สีที่เนื้อละเอียด แต่จะทำให้เกิดการฟุ้งกระจายมาก ดังนั้นในการทาสีด้วยการพ่นนี้จึงต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญจริงๆ จากข้อมูลข้างต้น คิดว่าวิธีการทาสีด้วยลูกกลิ้งน่าจะเป็นวิธีที่เหมาะกับงานบ้านพักอาศัยมากกว่าการพ่น หรือการทาด้วยแปรง เพียงแต่ว่าในพื้นที่บางจุดหรือบางส่วนอาจต้องมีการใช้แปรงทาสีร่วมด้วย เพราะลำพังลูกกลิ้งคงใช้ได้กับพื้นที่กว้างๆ ใหญ่ๆ เท่านั้น บริเวณผนังที่ชนกับฝ้าเพดาน บริเวณมุมด้านในของผนังสองผืน คงต้องใช้แปรงทาสีในการเก็บงาน ส่วนการพ่นสีนั้นลืมไปเลยดีกว่าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม